ธี่หยด 2 Death Whisperer 2 เป็นหนังไทยแนวสยองขวัญเหนือธรรมชาติ ที่ออกฉายในปี พุทธศักราช 2567 เหมือนกันกับภาคแรก ภาพยนตร์ถูกถ่ายทำเพื่อเข้าฉายในระบบไอแมกซ์ทั้งยังระบบ ภาพยนตร์ประเด็นนี้ผลิตขึ้นมาจากเรื่องราวที่เกิดขึ้นใน พุทธศักราช 2515 ต่อเติมเรื่องราวเพื่ออรรถรถยนต์ในลักษณะของภาพยนตร์ชุดผีอมตะ ของ แซม เรย์มี ที่เป็นแรงผลักดันของทวีวัฒน์ เมื่อภาคแรก
ภาพยนตร์ได้รับคำติชมในด้านบวกถึงเรื่องราว อารมณ์ แอ็คชั่นรวมทั้งความสยดสยอง แม้กระนั้นวิจารณ์ถึงการเปลี่ยนแนวจากแนวสยองขวัญ เป็นแถวแอ็คชั่น รวมทั้งนักแสดงใหม่ที่ถูกใช้อย่างไม่คุ้ม คราวหลังภาพยนตร์ได้ถูกตั้งเป็นตัวปูไปสู่จักรวาลภาพยนตร์ธี่หยด ที่จะมีเรื่องมีราวราวของครอบครัวยักษ์แล้วก็การตามไล่ล่าซาตานรวมทั้งความทารุณโหดร้ายของสิ่งเหนือธรรมชาติในอนาคต
ธี่หยด 2 Death Whisperer 2
เกิดเรื่องราว 3 ปีข้างหลังการถึงแก่กรรมของ ‘แย้ม’ (รัตนวดี ตระกูลทองคำ) ถึงแม้คนภายในครอบครัวจะอุตสาหะชักชวนให้ ‘ยักษ์’ (ณเดโชน์ คูกิไม่ยะ) เลิกตามเอาคืนผีชุดดําแค่ไหน แต่ว่ายักษ์ก็ยังคงดื้อด้านที่จะตามล่ามันให้ได้ ด้วยกลัวว่าผีชุดสีดำจะกลับมาจัดแจงกับคนที่อาศัยอยู่ภายในครอบครัวที่เหลือของเขา ซึ่งยักษ์สืบเสาะหาจนถึงเจอเค้าเงื่อนว่าผีชุดสีดำถูกเลี้ยงโดยหมอปราบผีจอมขมังเวทย์ชื่อ ‘ตาพวง’ ที่ย้ายถิ่นหนีไปหลบซ่อนใน ‘ป่าดงผีโขมด’ ซึ่งเต็มไปด้วยอาถรรพณ์เร้นลับ ยักษ์จะต้องประจันหน้ากับผีร้ายรวมทั้งอันตรายรอบกาย
เวลาเดียวกัน ‘หยาดหยด’ (เดนิส เจลีลชา คัปปุน) กำลังจะสมรสกับ ‘ประดิษฐ์’ (พีรวิชญ์ อรรถชิตสถลาพร) ทางครอบครัวกำลังจัดเตรียมจัดงานแต่งให้ทั้งสอง และก็หวังว่ายักษ์จะกลับมาร่วมพิธีมงคลสมรสอย่างพร้อมหน้า โดยที่ไม่รู้จักเลยว่า ผีชุดสีดำกำลังจะกลับมาทำให้ครอบครัวของยักษ์จำเป็นต้องประจันหน้ากับความสยดสยองอีกรอบ
Death Whisperer 2 เป็นภาคต่อของภาพยนตร์สยองขวัญไทยยอดนิยมจากภาคแรก โดยเรื่องราวยังคงย้ำบรรยากาศหลอนของความศรัทธาพื้นเมืองและก็วิญญาณร้ายที่เกี่ยวโยงกับ “ธี่หยด” เสียงน้ำหยดที่มั่นใจว่าเป็นสัญญาณของความตาย
ภาคนี้เน้นย้ำสร้างความระทึกใจด้วยการใช้สิ่งแวดล้อมรวมทั้งจังหวะที่น่าสยดสยอง
การจัดแสงสว่างรวมทั้งเสียงมีหน้าที่สำคัญสำหรับในการสร้างความเครียด ภาพยนตร์เต็มไปด้วยการปรากฏตัวของสิ่งเหนือธรรมชาติ ที่มีความเข้มข้นเพิ่มมากขึ้นและก็การหักมุมที่สร้างความแปลกใจให้กับผู้ชม
ผู้แสดงในเรื่องมีการแสดงที่น่าประทับใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในฉากที่จำเป็นต้องติดต่อความหวาดกลัว ความสงสัย และก็ความลังเลใจของผู้แสดง การออกแบบผีและก็ฉากการเผชิญหน้ากับสิ่งลึกลับในหัวข้อนี้ก็ทำเป็นอย่างน่าสยองและก็น่าจำ
แม้ว่าจะมีส่วนประกอบสยองขวัญที่อดทน แต่ว่าบางบุคคลบางทีอาจคิดว่าเรื่องราวออกจะเป็นเส้นตรงและก็ขาดการพัฒนานักแสดงเพิ่ม แต่ สำหรับแฟนภาพยนตร์สยองขวัญที่ถูกใจบรรยากาศเชื้อเชิญหลอนและก็ผีไทย ภาพยนตร์หัวข้อนี้ยังคงตอบปัญหาได้อย่างยอดเยี่ยม
นักแสดงนำ
- ณเดชน์ คูกิมิยะ
- เดนิส เจลีลชา คัปปุน
- กาจบัณฑิต ใจดี
- พีระกฤตย์ พชรบุณยเกียรติ
- ณัฐชา นีน่า เจสซิกา พาโดวัน
- พีรวิชญ์ อรรถชิตสถาพร
- อริศรา วงษ์ชาลี
- ปรเมศร์ น้อยอ่ำ
รวมทั้งนี่ก็คือหนังสยองขวัญภาคต่อจากหนึ่งในความปังของแวดวงภาพยนตร์ไทยเมื่อปี 2566
ที่เคยหลอกปัดกวาดรายได้ทั่วราชอาณาจักรไปได้กว่า 500 ล้านบาท ตอนนี้กลับมาสืบต่ออีกครั้งใน “ธี่หยด 2” ที่แปลงเป็นอาการผวาแบบปีต่อปี ที่บางบุคคลบางครั้งอาจจะตั้งแง่ว่างานสร้างแบบน้ำขึ้นให้รีบตักอย่างงี้จะยังรักษามาตรฐานและก็ประสิทธิภาพได้ไหม แต่ว่าบอกได้เลยว่าปี 2567 ก็คงจะได้มองเห็นอีกหนึ่งการเกิดหนังได้รับความนิยมถล่มทลายช่วงปลายปีซ้ำรอยเดิมอีกทีแน่นอน
ธี่หยด 2 สำหรับในภาคนี้เกิดเรื่องราว 3 ปีข้างหลังการเสียชีวิตของ แย้ม หากแม้คนที่อาศัยอยู่ในครอบครัวจะมานะคะยั้นคะยอให้ ยักษ์ เลิกตามเอาคืนผีชุดดําเท่าใด แม้กระนั้นยักษ์ก็ยังคงดื้อด้านที่จะตามล่ามันให้ได้ ด้วยกลัวว่าผีชุดสีดำจะกลับมาจัดแจงกับคนที่อาศัยอยู่ภายในครอบครัวที่เหลือของเขา ซึ่งยักษ์ค้นหากระทั่งเจอเค้าเงื่อนว่าผีชุดสีดำถูกเลี้ยงโดยหมอปราบผีจอมขมังเวทย์ชื่อ ตาพวง ที่ย้ายถิ่นหนีไปหลบซ่อนในป่าดงผีโขมด ที่เต็มไปด้วยอาถรรพณ์เร้นลับ ยักษ์จะต้องเจอหน้ากับผีร้ายและก็อันตรายรอบกาย tuneitman
เวลาเดียวกัน หยาดหยด กำลังจะสมรสกับ ประดิษฐ์ ทางครอบครัวกำลังตระเตรียมจัดงานแต่งให้ทั้งสอง แล้วก็หวังว่ายักษ์จะกลับมาร่วมพิธีมงคลสมรสอย่างพร้อมหน้า โดยที่ไม่รู้จักเลยว่า ผีชุดสีดำกำลังจะกลับมาทำให้ครอบครัวของยักษ์จำต้องประจันหน้ากับความสยดสยองอีกที
ใน “ธี่หยด 2 Death Whisperer 2” มีการขยายจักรวาลของเรื่องราวรวมทั้งเผยข้อมูลใหม่เกี่ยวกับตำนานของ “ธี่หยด” ซึ่งทำให้ผู้ชมรู้สึกพึงพอใจเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยการเชื่อมต่อเรื่องราวระหว่างภาคแรกแล้วก็ภาคต่อทำเป็นอย่างลื่นไหล ถึงแม้ผู้ที่มิได้ดูภาคแรกก็ยังสามารถรู้เรื่องเรื่องราวของภาคนี้ได้
ลักษณะเด่นอีกอย่างหนึ่งเป็นการออกแบบฉากแล้วก็สถานที่ที่สร้างบรรยากาศน่าสยองได้ดิบได้ดี
โดยเฉพาะอย่างยิ่งฉากในบ้านโบราณที่เต็มไปด้วยบรรยากาศอันน่าบีบคั้น เสียงแล้วก็เอฟเฟกต์เสียงของน้ำหยดถูกใช้ในจังหวะที่สมควร ทำให้ผู้ชมรู้สึกถึงความน่าขนลุกที่เบาๆมากยิ่งขึ้น
ด้านความเชื่อมโยงระหว่างนักแสดงในหัวข้อนี้ก็มีการปรับปรุงมากขึ้นเรื่อยๆ นักแสดงเริ่มมีมิติรวมทั้งความลึกเยอะขึ้น ขัดแย้งทางอารมณ์และก็ความแคลงใจกัน ซึ่งทำให้รายละเอียดน่าดึงดูดมากยิ่งกว่าการเพียงแค่ย้ำการโกหกหลอนสิ่งเดียว
แต่ ภาพยนตร์อาจมีตอนจังหวะที่ออกจะช้าในบางช่วง ซึ่งอาจจะก่อให้ผู้ชมบางกรุ๊ปรู้สึกเบื่อ แม้กระนั้นด้วยการผลิตบรรยากาศที่เชิญระทึกใจแล้วก็ฉากที่น่าจำ “ธี่หยด 2” ยังคงเป็นภาพยนตร์สยองขวัญไทยที่น่าดึงดูดและก็เหมาะกับแฟนคลับของแนวนี้
ภาคนี้เกิดเรื่องราวที่ได้แรงดลใจจากนักแสดง
และการดัดแปลงปรับปรุงแก้ไขพล็อตเรื่องนิดหน่อยจาก ‘ธี่หยด…สิ้นเสียงคร่ำครวญคลุ้มคลั่ง’ นิยายภาคจบที่จับเอาการราวของคุณลุงยักษ์มาขยายเป็นตัวละครหลักในภาคนี้ รวมกับตำนานผีปอบตาพวง ที่เคยถูกบันทึกเอาไว้ภายในหนังสือวชิรญาณยอดเยี่ยม เล่มที่ 8 แผ่นที่ 10 ซึ่งนับว่าเป็นเอกสารชิ้นแรกของไทยที่มีการบันทึกเรื่องราวตำนานของผีปอบตาพวง หรือปอบที่เมืองจังหวัดอุตรดิตถ์ ที่ถูกเอามาดัดแปลงแก้ไขด้วยการเพิ่มเรื่องราวเชิงประวัติศาสตร์ แล้วก็ปรับปรุงแก้ไขดัดแปลงให้แปลงเป็นค้างแรกเตอร์จอมขมังเวทย์ที่มีแบ็กกราวนด์เชื่อมโยงกับผีชุดสีดำ รวมกับเรื่องราวการออกเสี่ยงอันตรายไล่ล่าตาพวงรวมทั้งผีชุดสีดำ
เป็นภาพยนตร์ผีไทยๆที่ใช้ศาตร์ความเลื่อมใส กับ Element หลายๆอย่างที่มาจากสื่อเบิกบานสาย Pop Culture ที่เคยได้เห็นกัน อีกทั้งความน่าสยองที่เลียนแบบจากฉากภาพยนตร์ดังในอดีตกาลหลายๆเรื่องที่เอามาประยุกต์ แล้วดูดีมากมายๆ/ ผีที่มองมุมไหนก็ราวกับหลุดมาจาก #มหาเวทย์ผนึกมาร / แอคชั่นที่ดุดัน สาแก่ใจ ยังกับหนังอาหลอง + Constantine / คาแรคเตอร์ที่มองเหมือนหลุดมาจากหนังสือนวนิยายไทยแนวเข้าป่าล่าทรัพย์สมบัติ แล้วก็การประมือกับผีที่มีแนวทางจจัดแจงเฉพาะทาง หรือการต่อกรที่แตกต่างกันไป
ส่วนเส้นเรื่อง นับว่ามีการแบ่งพาร์ทแจ่มกระจ่าง คนไหนถูกใจแอคชั่นเดือดๆแนวๆละครอาหลอง เข้าป่าหาไอเทม ซีน”ยักษ์” เป็นสนุกสนานมากมาย ในตอนที่พาร์ทสยองขวัญ ของหยาดหยด ในอพาร์เม้นท์คืนก่อนหน้านี้สมรส ถูกปรับให้มาเป็นแถวครึ่งหนึ่งๆSlasher ที่ค่อนข้างจะค่อยไปนิด แต่ว่า Jump Scare ไม่มั่วราวกับภาคแรก แล้วเน้นย้ำเพียงแค่ไม่กี่จุด แม้กระนั้นสะดุ้ง หนำใจไม่แพ้กัน
ส่วนบทพูดที่ภาคแรกกหลายๆคนพร่ำบ่นกันว่า เหมือนละครโทรทัศน์ข้างหลังข่าวสาร … ภาค 2 นี้มีการปรับบทสำหรับพูดระหว่างนักแสดงให้ไหลลื่นขึ้น แยบคาย มีการต่อบทที่คมมาก พร้อมเรืชูเสียงหัวเราะ แล้วก็ยังดึงเอาคาแรคเตอร์ออกมาชัดมากขึ้นเรื่อยๆ
โดยที่ตัวหนังยังคงได้โอกาสมงานชุดเดิมกลับมาสืบต่อ
นำโดย “คุ้ย-ทวีวัฒน์ วันทา” ที่ยังรับหน้าที่ดูแลหนังภาคที่ 2 ประเด็นนี้แบบไม่ยั้งมือ ที่ไม่สามารถที่จะปฏิเสธได้เลยว่า ธี่หยด 2 เปลี่ยนเป็นหนังที่มาเพื่อยกฐานะจากความเดิมในขณะที่แล้วให้สาแก่ใจยิ่งยวดขึ้นกว่าเก่า ทั้งยังยังเห็นได้ชัดว่าผู้ผลิตสนองตอบคำวิจารณ์จากผู้ชมนำไปแก้ไขปรับปรุงในภาคนี้ แปลงเป็นว่าจุดเสียแล้วก็จุดบกพร่องต่างๆจากภาคแรกได้ถูกละเลงทิศเหนืออยเอาไว้ได้อย่างดีเยี่ยมสวยในภาคนี้
ในทางของบทหนังรวมทั้งโครงเรื่องนั้น บอกตามจริงเลย บางทีก็อาจจะยังมิได้ในด้านความแจ่มใสอะไร แต่ว่าก็ถูกเติมเต็มไปด้วยการหยอดใส่อรรถรสความรื่นเริงใจเชื้อเชิญหลอนแบบจัดเต็มตลอดระยะเวลาเกือบจะ 2 ชั่วโมงของประเด็นนี้ มีแค่เพียงตอนแรกๆสำหรับการปูเรื่องเริ่มแค่นั้นที่มองไม่ค่อยมีเหตุผลสักเท่าไหร่ ทั้งการใส่เนื้อหายังออกจะละลางเลือนสวนกับพื้นเพทางประวัติศาสตร์ไปเยอะแยะ แต่ว่าก็เป็นจุดเล็กๆซึ่งสามารถละเลยไปได้อย่างให้น่ายกโทษ
ในส่วนท้ายของ Death Whisperer 2 เรื่องราวไปสู่จุดที่เคร่งเคลียดที่สุด เมื่อความลับของตำนาน “ธี่หยด” ถูกเผยมากยิ่งขึ้น ทำให้เรื่องราวที่ดูอย่างกับว่าง่ายเปลี่ยนเป็นเรื่องสลับซับซ้อน มีการเปิดตัวละครลับที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับวิญญาณธี่หยด ซึ่งเพิ่มระดับความน่าสยดสยองแล้วก็ลุ้นระทึกให้กับภาพยนตร์
จุดพีคของเรื่องในฉากจุดไคลแมกซ์ถูกผลิตขึ้นอย่างดีเยี่ยม
ด้วยการใช้เคล็ดวิธีภาพและก็เสียงที่ทำให้ผู้ชมจำเป็นต้องลุ้นจนกระทั่งนาทีในที่สุด ผลสรุปของเรื่องราวในภาคนี้มีการตบท้ายที่น่าไตร่ตรอง ทำให้ผู้ชมกำเนิดความข้องใจว่าเรื่องราวของธี่หยดบางครั้งอาจจะยังไม่จบสิ้นแล้วก็อาจมีการเปิดจักรวาลหรือภาคต่อเพิ่มเติมอีกได้
นักวิพากษ์วิจารณ์เล็กน้อยสรรเสริญการผลิตบรรยากาศและก็ความหลอนที่เป็นเอกลักษณ์ของภาพยนตร์ แม้กระนั้นก็มีความเห็นว่าการเล่าเรื่องบางครั้งอาจจะสลับซับซ้อนเกินความจำเป็นในบางจุด รวมทั้งจะต้องอาศัยความรู้ความเข้าใจจากภาคแรกพอเหมาะพอควรเพื่อจะรู้เรื่องเนื้อหาทั้งผองได้ดิบได้ดี
โดยรวมแล้ว เป็นภาพยนตร์สยองขวัญที่มีจุดแข็งในด้านการผลิตบรรยากาศและก็ความหลอนที่เข้มข้น รวมทั้งการใช้ตำนานเขตแดนไทยสำหรับเพื่อการเสนอเรื่องราว แม้กระนั้นในเวลาเดียวกันก็มีข้อกำหนดในประเด็นการเล่าที่อาจจะเป็นผลให้ผู้ชมบางบุคคลรู้สึกมึนงงได้ในบางช่วง
ถ้าเกิดภาคแรกเป็นหนังสยองขวัญที่ขับเคลื่อนด้วยความน่าสะพรึงกลัวของผีชุดสีดำ ฉากโหดเหี้ยมเสียวสันหลัง การวางแบบเสียงคำว่า ‘ธี่หยด’ และก็เพลง “โปรดเหอะดวงใจ” ของ ทูล ทองคำจิตใจ ที่เปลี่ยนเป็นความหลอนข้างหลังดูหนังจบ แล้วก็เหตุแล้วก็เส้นเรื่องที่คิดมาเพื่อเล่นกับโลเคชันบ้านของครอบครัวใน จังหวัด จังหวัดกาญจนบุรี (รวมทั้งทำให้บ้านราวกับเป็นตัวละครตัวหนึ่งไปด้วยโดยปริยาย)
ส่วนภาคนี้มีความไม่เหมือนด้วยการขยายเรี่องราวออกไปเสี่ยงอันตรายนอกสถานที่มากเพิ่มขึ้น ตัวหนังก็เลยมีส่วนผสมของหนัง Action-Horror ที่ผสมกลิ่นความเป็นหนังเสี่ยงภัยในป่าอาถรรพณ์เร้นลับที่แอบเชิญให้คิดถึง ‘The Mummy’ (1999) หรือนิยาย ‘เพชรพระอุมา’ ตอนที่โลเคชันอพาร์เม้นท์ก็เชิญให้รำลึกถึงบรรยากาศบังกะโลผีแบบ ‘The Shining’ (1980) ที่มีบรรยากาศแตกต่างกันออกไปจากภาคแรกเยอะพอสมควร