โรงงานผลิตเซรั่มหน้าใส
โรงงานผลิตเซรั่มหน้าใส บริษัทผลิตและออกแบบครีมบำรุง เครื่องสำอาง ผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมและช่องปากไปจนถึงผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ที่มีเรื่องราวที่ผ่านมานาน บริษัทผลิตเครื่องสำอางจากประเทศญี่ปุ่นจนทำให้เกิดเป็นสินค้ากฏเกณฑ์ดีกรีสากลที่ได้รับการพิสูจน์ทั้ง GMP และ ISO/IEC 9001 ว่ามีระบบการผลิตที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด โดยการบริการของที่นี่จะมุ่งเน้นที่การตอบสนองในสิ่งที่ต้องการของผู้บริโภคเป็นหลักและให้คำปรึกษาอย่างใกล้ชิดตั้งแต่เริ่มต้นปรับปรุงสูตรและออกแบบบรรจุภัณฑ์โดยผู้ที่มีความเชี่ยวชาญ มีบริการดำเนินกระบวนการติดต่อขึ้นทะเบียนจดแจ้งต่อคณะกรรมการอาหารและยาและทำการสร้างสินค้าด้วย
เครื่องจักรกลที่ทันสมัยตรงตามเกณฑ์โรงงานได้มากยิ่งกว่า 80 ล้านชิ้นต่อเดือน พร้อมด้วยทำการขนส่งผลิตภัณฑ์และมีบริการหลังวิธีขายที่ดีคอยให้คำแนะนำ ทำให้ในปัจจุบันมีลูกค้าประจำทั้งแบรนด์น้อยใหญ่มากกว่า 200 แบรนด์ ให้คุณมั่นใจว่าผลิตภัณฑ์ที่ได้จะดิ่งดังที่คุณต้องการและมีประสิทธิภาพจำนวนเยอะที่สุด
สร้างแบรนด์ของตน ผลิตเครื่องสำอางที่ไหนดี ?
หากคุณอยากจะเป็นเจ้าของยี่ห้อที่บรรลุความสำเร็จ ท่ามกลางคู่แข่ง โรงงาน ผลิตเซรั่มหน้าใส จำนวนไม่น้อยที่มีขายอยู่ตามท้องตลาด หลากหลายยี่ห้อ หลากหลายแบรนด์ คนซื้อก็มีหนทางเยอะมากๆแล้วพวกเราจะทำอย่างไรให้โดนใจผู้ซื้อ ใช้สินค้าของพวกเราแล้วกลับมาใช้อีก นอกนั้นความเด่นของตัวผลิตภัณฑ์แล้ว สิ่งที่จำเป็นที่จะต้องคิดถึงที่สุดเลย ความปลอดภัย มีคุณภาพ ได้หลักเกณฑ์การยืนยัน แล้วพวกเราจะทราบได้เช่นไร? ว่าไม่เป็นอันตราย มีประสิทธิภาพ และได้หลักเกณฑ์
1.การคัดสรรค์สถานที่ผลิตที่ได้เกณฑ์ เราก็จึงควรคัดสรรค์สถานที่ผลิต ที่นำมาซึ่งการทำให้เราแน่ใจได้ว่าสินค้าพวกเราจะไม่มีอันตราย ได้หลักเกณฑ์ การเลือกเฟ้นโรงงานผลิตเครื่องสำอางที่ดี มีประสิทธิภาพได้หลักเกณฑ์ นั้นไตร่ตรองจากอะไรได้บ้าง อย่างแรกเลย จะต้องได้รับการรับรองเกณฑ์สากล อย่างเช่น
สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา อย.
การรับรองเกณฑ์ฮาลาล
หลักเกณฑ์ระบบจัดการงานประสิทธิภาพ (ISO 9001)
มาตรฐานระบบการจัดการสภาพแวดล้อม (ISO 14001)
กฏเกณฑ์ GMP
หลักเกณฑ์ ISO 22716:2007 Good Manufacturing Practices (GMP)
ถ้ามีครบรายการดังที่กล่าวถึงมาแล้ว ก็สามารถกล่าวได้ว่าโรงงานผลิตเครื่องสำอาง หรือ โรงงานผลิตครีม แห่งนั้นได้มาตรฐาน และปลอดภัย แต่เพื่อความแน่ใจสามารถเช็คโรงงานที่ได้รับ GMP จากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) โดยเข้าไปที่ เว็บไซต์ของสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา
2.คัดเลือกโรงงานผลิตที่มีบริการแบบครบวัฏจักร One Stop Service สามารถช่วยให้คำแนะนำก่อนการสร้าง และเป็นคนให้คำแนะนำให้กับผู้ซื้อได้อย่างละเอียด ครบถ้วน ตั้งแต่ให้การคำปรึกษาก่อนแนวทางการทำสร้างแบรนด์สินค้า จนจบกระบวนการผลิต
บริการให้คำปรึกษา ด้านการตลาด ,ด้านผลิตภัณฑ์ ,ด้านทางเลือกการจัดค้าขาย ทั้งในและต่างประเทศ
การศึกษาเรียนรู้และค้นคว้าและทำการวิจัยและพัฒนาสูตรผลิตภัณฑ์ที่เป็นสูตรเฉพาะของลูกค้า
บริการดีไซน์สินค้า การดีไซน์สินค้าและสรรหาบรรจุภัณฑ์ที่สมควร
บริการยื่นและจดแจ้ง อย.ไทย
บริการแบ่งปันผลิตภัณฑ์ทั้งในและเมืองนอก
นอกเหนือจากนั้นนี้ยังชี้แนะเกี่ยวกับการ พัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ และสามารถให้วิชาการลูกค้าได้ด้วย เป็นที่ปรึกษาทางธุรกิจได้อีกด้วย และโรงงานผลิตเครื่องสำอางที่ดีนั้น ควรจะจะเกิดการติดตามการจำหน่ายของผู้ใช้ด้วย และถามอุปสรรคปัญหาต่างๆของผู้ใช้ เพื่อจะแก้ปัญหา ให้คำปรึกษากับผู้บริโภคได้อย่างดีเยี่ยม เช่นนี้สิถึงจะสามารถเป็น Partner ทางธุรกิจกันไปได้ยาวๆ
3.เลือกโรงงานผลิตที่มีที่ตั้งโรงงานแจ่มชัด ไว้ใจได้ มีความชำนาญ สำหรับเพื่อการผลิตผลิตภัณฑ์
สูตรตัวยา สูตรผลิตภัณฑ์ที่มีความมากมายหลาย เป็นเอกลักษณ์ มีความสะดุดตา มีให้ผู้ซื้อได้เลือกสรร ได้แก่ สีเครื่องสำอาง สูตรเซรั่มบำรุงผิว สูตรครีมหน้าสว่างใส สูตรครีมกันแดด สูตรตัวจำเพาะที่ทำการวิจัยใหม่เป็นนวัตกรรม และสามารถตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคได้ทุกรูปแบบ
กระบวนการผลิต สามารถสินค้าได้มากมายไม่ว่าจะเป็น ผลิตเครื่องสำอาง ครีมบำรุงผิว ครีมกันแดด สบู่ ยาสีฟัน รวมถึงน้ำยาเพื่อในครัวเรือนได้ สามารถผลิตได้ไม่ว่าจะเป็นความยืดหยุ่นสำหรับในการผลิต ทั้งจำนวนเล็กน้อยและปริมาณมากๆได้ มีเครื่องจักรกลรองรับและล้ำยุคได้หลักเกณฑ์
นอกจากนี้นี้ความเก๋าด้วยเรื่องราวที่ผ่านมาที่มาอย่างยาวนานของโรงงานเองก็ก่อให้เกิดผลเสียการตกลงใจเฟ้นโรงงานผลิตเครื่องสำอางด้วย
AHA VS BHA สารสกัดจากธรรมชาติอุดมคุณค่าต่อผิว
ความแตกต่างขณะ AHA และ BHA สารสกัดจากธรรมชาติ
AHA คือ สารเจือที่มีฤทธิ์เป็นกรด เป็นสารสกัดจากผลไม้ อาทิเช่น กรดซิตริกจากมะนาว ส้ม กรดมัลลิกจากแอปเปิ้ล กรดแล๊กติกจากนมเปรี้ยว เป็นต้น
ผิวของเราผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วตามธรรมชาติทุกวัน แต่เมื่อเวลาผ่านไปโดยมากเกิดจากอายุและการรับรู้กับแสงแดดที่ไม่ได้รับการปกป้องกระบวนการไหลนี้ช้าลงและอาจยุติทั้งปวง มีผลให้ผิวหม่นหมองคล้ำแห้งหรือเป็น ขุย รูขุมขนอุดตัน การกระทบริ้วรอยการสูญเสียความกระชับและโทนสีผิวที่ไม่สม่ำเสมอไป
ช่วยทำให้ผิวผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วหลุดออกอย่างอ่อนโยน – ตามธรรมชาติเมื่อพวกเราอายุต่ำลงยิ่งกว่า – เผยผิวสวยนุ่มชุ่มชื่นซ่อนตัวอยู่ข้างใต้อย่างรวดเร็วทันใจในชั่วข้ามคืน ถ้าเกิดว่าไม่มีคำถามการปลดปล่อยสารเคมี AHA ( กรดอัลฟาไฮดรอกซี ) หรือ BHA (เบต้าไฮดรอกซี) สามารถสร้างโลกที่แตกต่างในรูปลักษณ์ของผิวคุณ พวกเรานิยมจะถามไถ่ข้อสงสัยที่ดีเยี่ยมที่สุดและผลสรุปนั้นสลับซับซ้อนต่ำกว่าที่คุณคิด
AHAs และ BHA มีความคล้ายๆกันเช่นไร
AHAs (กรดอัลฟ่าไฮดรอกซีเช่นไกลโคลิกและกรดแลคติก) และ BHA (เบต้าไฮดรอกซี / ซาลิไซลิกแอซิด) ปฏิบัติหน้าที่ทั้ง “ไม่เคลือบ” พันธะที่จับผิวหม่นคล้ำและผิวที่ตายแล้ว เมื่อพันธะเหล่านั้นแตกหัก – อย่างอ่อนโยนและสม่ำเสมอ – ผิวหนังจะผลัดเซลล์ที่ใช้ไป เพราะฉะนั้นแม้ว่าคุณจะไม่ได้เห็นผิวของคุณจริง ๆ คุณจะแสดงตัว (และรับรู้) ผิวที่เรียบเนียนดูอ่อนกว่าวัยในไม่ช้า
นอกนั้นนี้ AHA และ BHA มีคุณสมบัติที่เป็นเอกลักษณ์นำมาซึ่งการทำให้หมู่เขาเป็นที่ชื่นชอบสำหรับิผวแต่ละประเภท
-ลดหน้าตาของเส้นและริ้วรอย
-นำมาซึ่งการทำให้ผิวชมและสัมผัสกระชับ ผิวชุ่มชื้น
-ปรับแก้ภาพลักษณ์ของผิวที่หมองหม่นคล้ำไม่สม่ำเสมอไป
-พื้นผิวเรียบขรุขระเป็นหลุมเป็นบ่อ
AHAs และ BHA แตกต่างกันเช่นไร
AHAs ละลายน้ำได้ก็เลยจัดการงานได้จำเพาะบนพื้นผิว โรงงานผลิตเซรั่มหน้าใส โดยปกติแล้วหมวดเขาจะถูกใจผิวทั่วไปถึงแห้งและผิวที่โดนแดดเนื่องมาจากระดับความสามารถในการเสริมเติมความชุ่มชื้นตามธรรมชาติในผิว (ดังที่กล่าวถึงมาแล้ว BHA ยังให้ความชื้นเช่นเดียวกัน AHAs ได้รับการยืนยันแล้วว่ามีประสิทธิภาพในการลดสัญญาณที่มองเห็นได้ของความทรุดโทรมจากแสงแดดรวมทั้งลดริ้วรอย
BHA ดำเนินงานบนพื้นผิวและลึกลงไปในรูขุมขน มันเป็นน้ำมันที่ละลายได้ฉะนั้นจึงโดยมากจะเหมาะสำหรับผิวปกติถึงผิวมันมีทิศทางที่จะกระแทกกระแทกอุดตันสิวและรูขุมขนขยายใหญ่ขึ้น BHA ยังมีคุณสมบัติสำหรับในการสงบผิวตามธรรมชาติดังนี้จึงมีความอ่อนโยนพอเพียงเพื่อผิวที่บอบบางหรือมีลัษณะทิศทางที่จะเป็นสีแดงหรือ rosacea ส่วนผสมที่อ่อนโยนและกลมกล่อมนี้เหมาะสำหรับผิวที่มีข้อขัดแย้งที่จะต้องพบกับการถูกสร้างลาย
“การตลาดโลกสวย” เทรนด์รักษ์โลก โอกาสสร้างยี่ห้อ
“การตลาดโลกสวย” คนซื้อสายกรีน เมื่อผู้บริโภคเปลี่ยนไป ยี่ห้อก็จึงควรปรับตัว ก่อนที่จะตกขบวน เมื่อยี่ห้อรักโลก โดยกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่มาแรงในปี ยกตัวอย่างเช่น ผลิตภัณฑ์ที่ใช้วัตถุดิบย่อยสลายไม่ยากและกลับมาใช้ซ้ำ สินค้าหรือบริการที่ใช้พลังงานสะอาด ผลิตภัณฑ์หรือบริการที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ผลิตภัณฑ์อีโค่มีวางแบบตอบสนองคนรุ่นใหม่
1.สายกรีนตัวแม่ 37.6% เอาใจใส่ทำทุกสิ่งทุกอย่าง และยินดีจ่ายมีคุณค่าและราคาที่สูงขึ้นเพื่อจะรักษาสิ่งแวดล้อม
2.สายกรีนตามกระแส 20.8% เอาอย่างกระแสใช้ผลิตภัณฑ์อีโค่ แต่ยังขาดทัศนคติด้านความจำเป็นต้องการเปลี่ยนแปลงเพื่อจะสิ่งแวดล้อม
3.สายสะดวกกรีน 15.7% มีความรู้ความสามารถสำหรับการปกป้องสิ่งแวดล้อม แต่ยังรู้จักกับการบริโภคแบบเดิม ๆ
4.สายโนกรีน 26.0% ยังไม่พร้อมใช้จ่ายเพื่อสิ่งแวดล้อม และยังไม่เปลี่ยนความประพฤติปฏิบัติการบริโภค เพราะเหตุว่ามองว่าเป็นเรื่องยุ่งยาก
Gen Baby boomer (อายุ 55-73 ปี) มีลักษณะท่าทางเป็นสายกรีนตัวแม่สูงสุด รองลงมาเป็น Gen X (อายุ 39-54 ปี) , Gen Y (อายุ 23-38 ปี) และ Gen Z (อายุต่ำลงยิ่งกว่า 23 ปี)
หากองค์กร แปลง คนซื้อก็พร้อมจะ “แปลง” แนวโน้มการเปลี่ยนแปลงทัศนคติและความประพฤติของผู้บริโภค แยกแยะได้เป็น 4 เกรด คือ
1 : 61% มีความนึกคิดที่จะหันมาเอาใจใส่สิ่งแวดล้อม
2 : 10% เริ่มต้นมีพฤติกรรมใส่ใจสภาพแวดล้อม และติดข้อตกลง อะไรบางอย่าง ยกตัวอย่างเช่น คิดหนักถ้าจะต้องจ่ายเงินเสริมเติมเมื่อซื้อผลิตภัณฑ์ Eco
3 : 16% มีพฤติกรรมใส่ใจสิ่งแวดล้อมบ้าง และยอมจ่ายในมูลค่าและราคาที่สูงขึ้น
4 : 13% ทำจนเป็นนิสัยในชีวิตทุกวัน
เราจะเปลี่ยนคนซื้อได้ยังไง งานศึกษาค้นคว้าได้บอกต่อ “ ยุทธวิธีด้านการตลาดโลกสวย” ฉะนั้น
Early : ปลูกฝังจิตสำนึกให้เด็กรุ่นใหม่
สายสะดวกและสบายกรีนและโนกรีน 41.7% โดยมาก เป็นหมู่เจน Y เจน Z เหล่านี้มีความใส่ใจสิ่งแวดล้อมยังไม่มากนัก ดังนี้จึงควรเริ่มปลูกฝังเรื่องสภาพแวดล้อม Gen Y และ Gen Z เป็นกำลังในความเคลื่อนไหวอนาคตของประเทศต่อจากนี้เป็นต้นไป
Now or Never : ข้อขัดข้องสิ่งแวดล้อมควรจะแก้ไขโดยทันที
สายโนกรีนมีความเอาใจใส่ด้านสิ่งแวดล้อมยังไม่มาก สาต้นสายปลายเหตุจากการมีความรู้สึกว่าไม่น่าจะใช่เรื่องเร่งด่วนจำเป็นจะต้องปรับแต่ง และไม่ใช่หน้าที่ ด้วยประการฉะนี้ทุกภาคส่วนจำเป็นที่จะต้องด้วยกันปรับปรุงและทำงานทันที เพราะว่าข้อขัดแย้งจะบานปลายจนแก้มิได้อีกเลย
Viral : สื่อสารปัญหาสภาพแวดล้อมอย่างทั่วถึง
ควรต้องติดต่อและทำการสื่อสารข้อขัดข้องสภาพแวดล้อมให้เป็นกระแส ขยายเป็นวงกว้างขวาง โดยใช้อุปกรณ์ Social media ที่ช่วยในการแพร่กระจาย ทำ Viral อุปสรรคสภาพแวดล้อมให้กลายเป็น โรงงานผลิตเซรั่มหน้าใส เรื่องกระจายในวงกว้าง จะสามารถสร้าง Impact ในความเคลื่อนไหวโลกของอย่างมหาศาล
Innovative :ขับเคลื่อนเขยื้อนธุรกิจด้วยนวัตกรรม และออกแบบ
กลุ่ม SME หรือหน่วยงานธุรกิจใหญ่ ควรจะเคลื่อนเขยื้อนธุรกิจด้วยนวัตกรรมและการวางแบบผลิตภัณฑ์/บริการแบ่งสันปันส่วนมีวางแบบ จากการเรียนรู้ เจอว่า คนไทย 37.6% อยู่ภายในสายกรีนตัวแม่ ยินดีซื้อผลิตภัณฑ์หรือบริการที่มีราคาที่สูงขึ้น เพื่อที่จะรักษาสภาพแวดล้อม
“เทรนด์ธุรกิจโลกสวย” ยี่ห้อรักโลก ผู้บริโภครักแบรนด์
1) ธุรกิจผลิตภัณฑ์วัตถุดิบ “ย่อยสลายง่ายและนำกลับมาใช้ซ้ำ”
2) ธุรกิจผลิตภัณฑ์ Eco มีออกแบบ “สนองตอบคนรุ่นใหม่”
ธุรกิจ Design ทั้งสินค้าและ Packaging ที่สนองตอบคนรุ่นใหม่ เท่ คูล และรักษ์โลก อย่างเช่น Freitag ที่ทำมาจากผ้าใบของ รถบรรทุก หรือเป็นธุรกิจ Packaging กินได้ การวางแบบควรต้องสวยงาม เท่ ดูดี มีเอกลักษณ์ เพื่อคนถ่ายรูปได้ต่อ เป็นต้น
3) ธุรกิจที่มีสินค้าหรือบริการ “ที่ใช้พลังงานสะอาด” เช่น ธุรกิจศูนย์ชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าที่ตอบสนองฝูงชนใช้รถยนต์ไฟฟ้า หรือธุรกิจไฟฟ้าที่ใช้พลังงานจากแสงแดด ฯลฯ
4) ธุรกิจสินค้าหรือบริการ “ที่เป็นมิตรกับสภาพแวดล้อม” อาทิเช่น ธุรกิหน้าจอาหารที่มีวัตถุดิบจากพืชแทนการใช้เนื้อสัตว์สำหรับในการแปรรูป เหตุเพราะการเลี้ยงสัตว์กระตุ้นให้เกิดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ปริมาณมาก หรือธุรกิจเครื่องไม้เครื่องมือภาชนะที่ทำจากไม้ไผ่หรือฟางข้าว ฯลฯ
พวกเราต่างใส่ใจรู้ว่าการรักษาสิ่งแวดล้อมเป็นเรื่องที่พวกเราทุกคนจึงควรรับไม่ถูกถูกใจ และจะต้องยอมเสียสละ ความสะดวกสะดวกสบายบ้างอย่างออกไปบ้าง ซึ่งการทำให้มีการเกิดการปรากฏคุณประโยชน์ของสิ่งแวดล้อมอย่างแท้จริง นั้นไม่ใช่เรื่องง่าย ก็เลยจำเป็นจะต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ ภาคพลเมือง และภาคองค์กรธุรกิจ ซึ่งในอันดับองค์กรธุรกิจหรือผู้ประกอบกิจการนั้นได้เริ่มต้นให้ความเอาใจใส่กับการรักษาสิ่งแวดล้อม โดยมีแนวคิดการดำเนินธุรกิจที่พิจารณาถึงอุปสรรคสิ่งแวดล้อมอยู่หลากหลายประการ เพื่อจะมุ่งหวังการโตขึ้นตามวัตถุประสงค์การปรับปรุงที่ยั่งยืน