ดูหนัง Fast And Furious 10 Chang Can Dunk ดูเหมือนในทุกๆปีจะมีหนังที่สร้างออกมายุติธรรมเนียมของบริษัทผลิตภาพยนตร์เด็กวัยทีน วอลต์ ดิสนีย์ ที่จะสร้างภาพยนตร์สร้างแรงจูงใจให้กับเยาวชนออกมาสักเรื่องสองเรื่อง และก็เริ่มปีนี้กับ “Chang Can Dunk” ที่ถือว่าเป็นหนังสไตล์ coming-of-age กลิ่นความเป็นเอเชียนได้ถูกผสมไว้ หากว่าอะไรหลายๆอย่างในหนังหัวข้อนี้เกือบจะลงล็อก..แบบสูตรสำเร็จก็ตาม
Chang Can Dunk กล่าวถึงเรื่องราวของ แชง นักเรียนอเมริกันเชื้อสายทวีปเอเชียที่พึ่งจะขึ้นชั้น ม.ปลาย ที่คาดหวังจะสลับตัวเองครั้งสำคัญ ด้วยการพนันกับเพื่อนฝูงดาวสมาคมบาสเก็ตบอลของสถานที่เรียน สำหรับเพื่อการทำท่าสแลมดังก์ให้ได้ แต่ว่าเพราะว่าความสูงตามมาตรฐานชาวเอเชีย เพียงแค่ 170 ซม.หน่อยๆทำให้เขาจำต้องขมักเขม้นอย่างมาก เพื่อจะคว้าชัยสำหรับเพื่อการท้าคราวนี้ให้ได้ เพราะว่ามีพนันเป็นการเห็นด้วยจากสังคมสถานที่เรียน แต่ว่าเขาก็ได้ทำความเข้าใจว่า…พนันที่ชีวิตวัยรุ่นของเขา มันยังมีอะไรที่สำคัญมากกว่าเพียงแค่พนันพวกนั้น
ดูหนัง Fast And Furious 10 พากย์ไทย ซับไทย บรรยายไทย
แน่ๆว่ากลิ่นทวีปเอเชียลอยโชยมาเยอะแยะขนาดนี้ นี่เป็นหนังที่สำเร็จหน้าที่การงานดูแลแล้วก็เขียนบทของ “จิงยี่เฉา” ที่ถือได้ว่างานสร้างภาพยนตร์ใหญ่เรื่องแรกในฮอลลิวูดของเขา ภายหลังที่สั่งสมประสบการณ์จากแนวทางการทำหนังสั่นรวมทั้งสารคดีมาบ้างแล้ว แล้วก็งานสร้าง Chang Can Dunk ก็จัดได้ว่าดีใช้ได้ตามมาตรฐานแบบหนังดิสนีย์ ที่ชอบมีแบบร่างสำเร็จรูปวางไว้ในเดินตามรอย
โน่นก็เลยทำให้หนังประเด็นนี้ก็ไม่ได้มีความแตกต่างไปจากหนังวัยรุ่นดิสนีย์ในตอนทศวรรษก่อนหน้าที่ผ่านมา หนังอาจจะเป็นไปได้ว่าจะมีความก้าวหน้าขึ้นบ้างจากหนังเมื่อตอนสมัยปี 2000s ก่อนหน้านี้ที่ผ่านมา แม้กระนั้นก็ยังคงวนเวียนอยู่ในเซฟโซนของหนังดิสนีย์ทั่วๆไป บทหนังนับว่ามิได้ห่วย แม้กระนั้นก็ยังมิได้กลมกล่อมละมุนละไมระดับที่ค่อนข้างไม่ดี อย่างที่กล่าวไปแล้วว่า บทออกจะเป็นระเบียบเรียบร้อยสะกดรอยส่วนประกอบของหนังดิสนีย์ปูเอาไว้
มีเหตุการณ์ต่างๆเดินไปตามจุดต่างๆตั้งแต่ต้นกระทั่งจบ ดูหนัง Fast And Furious 10 แม้กระนั้นความพิเศษของหนัง Chang Can Dunk น่าจะเป็นเพราะเหตุว่าหนังป้ายความผิดเป็นเอเชียนเข้าไป ที่ทำให้มองไม่เหมือนกับหนังดิสนีย์เรื่องก่อนๆความอุตสาหะใส่วิถีชีวิตของคนเชื้อสายทวีปเอเชีย ที่จำต้องดิ้นรนให้อยู่รอดในสังคมใหญ่กับคนอเมริกัน ถือว่าเป็นเรื่องที่ท้า โดยยิ่งไปกว่านั้นการเช็ดกสารภาพจากสังคมวงกว้าง ถึงแม้ว่าหัวข้อนี้จะไม่ใช่เรื่องใหม่อะไร แต่ว่าก็ยังถือว่ามีหนังไม่มากรเองเยอะแค่ไหนที่ถ่ายทอดเรื่องนี้
ทางด้านการแสดงจัดว่าพอใช้ ยังไม่มีอะไรที่เด่นน่าประทับใจอะไรมากสักเท่าไรนัก ผู้แสดงชายหนุ่มดาวรุ่ง “บลูม ลี” ที่จำต้องมาแบกรับหนังอีกทั้งประเด็นนี้ แม้กระนั้นพลังรวมทั้งอินเนอร์ทางการแสดงของเขายังไม่ค่อนพอเพียง ที่จะเต็มเพิ่มความทรงอำนาจให้กับหนังได้ ทั้งเขาบางครั้งอาจจะแก่เกินความจำเป็นกว่าที่จะมารับบทเป็นเด็กอายุ 16 แล้ว
แม้ว่าจะใช้ความเป็นทวีปเอเชีย หน้าอ่อนวัยมาช่วยได้บ้างก็ตาม แต่ว่าเขาก็มองโตกว่าบทนี้แล้วจริงๆฉะนั้นโดยภาพรวมแล้ว Chang Can Dunk ก็จัดได้ว่าเป็นหนังดิสนีย์ที่เต็มไปด้วยสูตรสำเร็จของหนังวัยรุ่น เรท PG มองได้อีกทั้งครอบครัวตามแบบฉบับ หนังไม่มีพิษไม่มีภัย แทรกสอดแง่คิดรวมทั้งแง่คิดสำหรับในการดำเนินชีวิตสำหรับเพื่อการเติบโตของวัยรุ่น หนังเกือบจะไม่มีอะไรใหม่เลย เว้นเสียแต่จุดแข็งสำหรับเพื่อการใส่วิถีความเป็นทวีปเอเชียเข้ามาเป็นเรื่องสำคัญ เป็นหนังที่มองได้เพลิดเพลินๆขาวสะอาด ที่ยังหาจุดแข็งที่น่าจำไม่ค่อยได้มากนัก
Scream 6
เป็นอีกหนึ่งเฟรนไชส์หนังไล่ฆ่าแกงกันอย่างเบิกบานมือ ที่มานะคัดเลือกทางและก็การขยายแนวทางออกไปได้เรื่อยแล้วก็ดูท่าทีว่าจะไม่สิ้นสุดลงกล้วยๆเสียด้วย และเป็นการกลับมาอีกทีของ “Scream 6 กรีดร้องสุดๆ 6” ต้นตำหรับหนังแนวสแลชเชอร์เฉือนสยดสยองที่อาจจะกะพันมาอย่างนานสู่ทศวรรษที่ 3 คัมแบ็กครั้งนี้จัดว่าหามความอุตสาหะสดใหม่แบบเต็มบ่า เพราะว่ามีทั่วเมืองใหม่ กฎใหม่ และก็กลุ่มชนใหม่ๆที่ต้องระมัดระวังผู้ชมจะไล่หลังไม่ทันเอานะ
สำหรับในภาคนี้ Scream 6 จะจุดโฟกัสไปยังเหล่าผู้มีชีวิตรอดจากการฆ่าชั่วร้ายของโกสต์เฟส นำกลุ่มโดย แซม กับ ทาร่า พวกคุณได้ตกลงใจทิ้งเมืองวู้ดส์โบโร่เอาไว้เบื้องหน้าเบื้องหลัง เพื่อไปเริ่มชีวิตใหม่ในมหานครนิวยอร์กกับพ้องเพื่อนพ้อง โดยที่พวกเขาก็ไม่คาดคิดอย่างเดียวกันว่า สิ่งที่กลัวที่สุดจะยังติดตามมาหลอกหลายพวกเขาถึงเมืองใหญ่ที่นี้ด้วย
รวมทั้งในภาคนี้ก็ยังคงได้คู่หูผู้กำกับคู่เดิม “แมตต์ เบตติเตียนเนลลี-โอลพิล” กับ “ไทเลอร์ กิลเล็ตต์” มาสืบต่อเรื่องราวอีกภาค ที่ก็จะต้องเห็นด้วยในความสามารถงานสร้างของพวกเขา ที่เชี่ยวชาญงานหนังจำพวกนี้เป็นทุนเดิมอยู่ แล้วก็ภาคใหม่นี้้พวกเขาก็เริ่มบังคับแนวทางของหนังได้กระฉับกระเฉงได้เพิ่มขึ้น ใส่ไอเดีย กับพากเพียรสร้างกฎข้อบังคับใหม่ๆให้กับหนังชุดนี้ ที่ถือได้ว่าสิ่งที่ประทับใจดี แต่ว่าก็ยังมีหลายๆมุมมองที่สัมผัสได้ว่าบางทีอาจจะยังไม่เวิร์กอยู่บ้าง
แน่ๆว่าความสดใหม่ของ Scream 6 ในภาคนี้ก็คือการย้ายโลเคชั่น ดูหนังfast10 ที่มิได้วนเวียนและก็ซ้ำๆซากๆอยู่กับเมืองวู้ดส์โบโร่แบบเดิมๆอีกแล้ว โน่นก็เลยทำให้ห้อมล้อมมองแปลกใหม่ต่อตัวหนังเพิ่มขึ้น ถึงแม้ว่าเค้าเรื่องของหนังก็ยังคงวนลูปบ่อยๆเหมือนเดิมอยู่ก็ตาม แม้กระนั้นผู้ผลิตต่างรับทราบได้อย่างดีเยี่ยมแล้วว่า หนังจำเป็นต้องแงะเคล็ดวิธีไหนออกมา และก็ผู้ชมอยากได้มองเห็นอะไรบ้างที่อยู่ในหนังหัวข้อนี้กันแน่ ก็เลยทำให้หนังไล่ฆ่ากันแบบคลั่ง ที่มีความยาวถึง 2 ชั่วโมงหัวข้อนี้ ยังเป็นเหตุให้การฆ่าแกงเป็นความสำราญใจได้อยู่ถัดไป
บทหนัง Scream 6 ก็ยังได้โอกาสมจากภาคที่แล้ว “เจมส์ แวนเดอร์บิวต์” กับ “กาย บูสิกข์” มารับหน้าที่ปลุกปั้นอีกที จำเป็นต้องชื่นชอบเพราะว่าพวกเขาเลือกสรรไอเดียสดใหม่มาเติมเต็มให้กับเค้าเรื่องของหนังประเด็นนี้ ถึงแม้บทก็ยังคงยึดเอาสูตรสำเร็จเดิมๆของหนังชุด Scream มาใช้ แต่ว่าการใส่ลูกเล่นและก็ปรับแนวทางเล่าที่สร้างบรรยากาศที่ทำให้ผู้ชมคาดการณ์ไม่ถูกๆถูกๆอยู่เสมอเวลา โน่นเป็นเสน่ห์ที่สำคัญของเฟรนไชส์หนังประเด็นนี้นั่นเอง
แล้วก็สิ่งที่แน่ชัดมากมายๆในภาคนี้ก็คือความมานะบากบั่น(หรือจะเห็นว่าแออัดดีนะ?)สำหรับการยกย่องและก็ชมเชยเฟรนไชส์หนังชุดนี้ ที่ดำเนินมายาวนานตลอดกว่า 20 ปี จนกระทั่งภาคที่ 6 ในวันนี้ พวกเขาใส่กิมไม่กแล้วก็อีสเตอร์เอ้กเอาไว้ดักแฟนคลับเยอะมาก มีอีกทั้งจุดกลมกลืนได้ดิบได้ดีแล้วก็จุดที่รู้สึกแออัดเหลือเกินหน่อยคละเคล้ากันไป นี่เป็นความเพียรพยายามของหนังที่จะดำเนินรอยตามสร้างความแข็งแรงให้กับเฟรนไชส์นี้ ถึงขนาดที่ต้องการจะเรียกตัวเองว่าเป็นครอบครัวอีกหัวข้อบ้าง
ส่วนทางด้านการแสดงนั้น ภาคนี้มีทั้งยังดาราหนังคนเดิมรวมทั้งคนใหม่มาสมทบ “เมลิซซ่า บาร์เรร่า” มารับบทหนักกับการเป็นตัวละครหลักสำหรับในการเดินเรื่องภาคนี้ ที่ถือได้ว่าคุณก็จัดการก้าวหน้า แม้กระนั้นบางครั้งอาจจะยังไม่เสมอกันกับภาคก่อน กระนั้นก็จัดว่ามีโชคมาช่วย เนื่องจากว่า “เจนน่า ออร์เทก้า” ได้ขยับขึ้นมาเป็นอีกหนึ่งนักแสดงนำ ภายหลังที่คุณแจ้งกำเนิดเป็นดาวรุ่งดวงใหม่หมาดๆทำให้พลังซุปตาร์ของคุณมาช่วยเกื้อหนังภาคนี้เอาไว้ได้อย่างตรงจังหวะ
A Man Called Otto
เรื่องราวของชายวัย 59 ที่ปากมาก โผงผาง รักความถูกต้องชัดเจน ให้ค่ากับการทำงานหนักและก็ดูแคลนเทคโนโลยีที่ทำให้ความรู้ความเข้าใจของคนเราด้อยลง ถ่ายทอดความเป็นตัวตนของตาลุงขี้อารมณ์เสียคนนี้ผ่านความสามารถการแสดงขั้นเทวดาของ ‘ทอม แฮงก์ส’ ผู้แสดงรุ่นใหญ่ที่ไม่ว่าเล่นเรื่องไหน ก็ห้ามใจที่จะละเลยไปมิได้เลยสักหนึ่งครั้ง
‘A Man Called Otto’ หรือ ‘มนุษย์คุณลุง ชื่ออ๊อตโต้’ ผลิตมาจากนิยายขายดิบขายดีชั้น 1 ของนิวยอร์กไทมส์ เรื่อง ‘ชายชื่ออูเว่’ (A Man Called Ove) ผลงานการเขียนของ ‘เฟรียดริก บั๊กมัน’ (Fredrik Backman) คนเขียน บล็อกเกอร์ แล้วก็คอลัมนิสต์ชาวประเทศสวีเดน รวมทั้งเคยสร้างเป็นหนังประเทศสวีเดนมาแล้วในปี 2015 ในชื่อเรื่องเดียวกันกับหนังสือ แสดงนำโดย คอยล์ฟ ลาสการ์ด (Rolf Lassgård)ก็แสดงว่าประเด็นนี้เป็นการรีเมกด้วยความสามารถของ
มาร์ก ฟอร์สเตอร์ ผู้กำกับมีชื่อ แล้วก็ปรับเปลี่ยนเป็นบทภาพยนตร์ ดูหนัง Fast And Furious 10 ที่มีความผสมทั้งยัง ดราม่า โรแมนติก รวมทั้งเป็นดาร์กคอมเมดี้ โดยเปลี่ยนแปลงให้อูเว่ เปลี่ยนมาเป็น อ๊อตโต (ทอม แฮงก์ส) มนุษย์คุณลุงขี้รำคาญ ขาดจุดมุ่งหมายในชีวิตและไม่ยอมมูฟออน ภายหลังที่ ชอนญ่า(ราเชล เคลเลอร์) เมียของเขาได้จากไป เขาพร้อมที่จะดับสวิตช์ตนเอง ลาก่อนโลกนี้ โลกหมองๆที่ไม่เหลือสีสันอะไรอีกแล้ว
แต่ว่าจนแล้วจนรอดการสังหารตนเองของเขาก็ไม่เคยสมปรารถนา เพราะเหตุว่าเรื่องน่ารำคาญชอบมาสอดแทรกทัวร์สรวงสวรรค์ของเขาอยู่เป็นประจำ โดยยิ่งไปกว่านั้น มาริซอล (มาเรียนา เทรพีโน) เพื่อนบ้านคนต่างชาติคนใหม่ ที่ท้องโย้ๆพร้อมทั้งพกผัวแล้วก็ลูกอีกสองคนเข้าเอวมากมายวนจิตใจเขาอยู่เป็นประจำ
คุณช่างกล้าหาญชาญชัย ท้า ไม่สนใจสี่สนแปดว่าอ๊อตโต้จะยินดีต้อนรับไหม betflik22 จะต้องการฟังสิ่งที่คุณบอกหรือไม่ หรือจะเต็มอกเต็มใจไหมกับสิ่งที่คุณขอ แต่ว่าคุณจะทำเนื่องจากคุณเป็นเพื่อนบ้าน แล้วก็ความประพฤติปฏิบัติของคุณก็นำมาซึ่งมิตรภาพที่กลับชีวิตของเขา เกิดเรื่องราวตลกปนน้ำตา ที่อบอวลไปด้วยความรัก มิตรภาพแล้วก็การสูญเสีย ที่การันตีแน่นหนักออกมาได้ว่า บางทีคำว่าครอบครัวอาจจะมีการเกิดขึ้นมาได้ จากคน จากสถานที่ หรือจากเหตุบางสิ่งบางอย่าง ที่พวกเราบางทีอาจเกินคาด
มนุษย์คุณลุงปากดีที่ศีรษะใจใหญ่กว่าถนนหนทางหน้าบ้าน คนเขียนคิดว่าหัวข้อนี้เป็นดราม่าที่ค่อนไปทางดาร์กคอมเมดี้ ที่อบอุ่นผสมซึมเซา แล้วก็ถูกเล่าออกมาแบบเรียบแม้กระนั้นฟาดเรียบทุกอารมณ์จริงๆจ้ะ เป็นการเล่าสลับตอนนี้กับสมัยก่อน ที่จะพาพวกเราไปรู้จักกับตัวตนของอ๊อตโต้ ชายวัยใกล้ปลดเกษียณที่เกษียณอายุตนเองออกมาอยู่บ้านเพราะว่าโดนบังคับทางอ้อม เป็นชายปากร้าย ขี้วีนและก็ขวางโลกในสายตาของคนธรรมดาทั่วไป แม้กระนั้นมีหญิงสองคนภายในโลกที่มิได้เห็นว่าเขาเป็นอย่างงั้น หนึ่งเป็นเมียคู่ครองของเขาที่จากโลกนี้ไปแล้ว เมื่อเร็วๆนี้
